สถิติทั้งหมด

Cheap Web Hosting
Share |

Amoorea Thailand 4 U

Unchaleerat Boonyawit | Create Your Badge

Start Earning Today.

↑ Grab this Headline Animator

บทความน่าสนใจ

http://amoorea-gfi.com/?id=meaningful

เรื่องของ อิสรภาพอิสรภาพทางความคิด - สิ่งนี้ที่คุณเริ่มได้

อิสรภาพทางด้านเวลา และอิสภาพทางด้านการเงินเป็นสิ่งที่มีค่า และน้อยคนนักที่จะได้ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน โดยพิจารณาจากกล่มคน 4 ประเภทดังนี้
กลุ่มคนประเภทที่ 1 E (Employee) - ลูกจ้าง
- รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน
- รายได้ตามตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมาย
- นายจ้างเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตและเงินเดือนให้คุณ
- ขาดอิสรภาพ ต้องเซ็นต์ชื่อ ตอกบัตร
- ตกงานเท่ากับล้มละลาย (ตกงาน 3 เดือน ไม่ต่างจากคนล้มละลาย)
- อยู่ในวงจรหนี้สิน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ
- เช่น พนักงานประจำ ลูกจ้าง
กลุ่มคนประเภทที่ 2 S (Self-employed) - ทำธุรกิจส่วนตัว
- ขายเวลาแลกกับเงิน จ้างตัวเองทำงาน
- ชอบคิดเองทำเอง, ควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง
- ขาดประสบการณ์
- เจอคู่แข่งที่มีทุนหนากว่า
- อาจจะทนทำ เพราะชอบ อิสระ แต่ไม่มี อิสรภาพ
- หมอ, เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว, เจ้าของร้านโชวห่วย
กลุ่มคนประเภทที่ 3 B (Business Owner) - เจ้าของธุรกิจ
- มีทุน
- หาคนเก่งๆ มาทำงานให้
- ไม่ทำก็มีรายได้
กลุ่ม B มีหลายประเภท
- บริษัท
- แฟรนไซน์
- การตลาดแบบเครือข่าย (เป็นช่องทางที่จะเป็นเจ้าของกิจการ ที่มีความเสี่ยงน้อย)
- ผู้สร้างธุรกิจเครือข่าย

กลุ่มคนประเภทที่ 4 I (Investor) - นักลงทุน
- ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน
- มองผลตอบแทนจากการปันผล ดอกเบี้ย
- ซื้อกิจการมาปรับปรุง แล้วขายต่อ

หนังสือพ่อรวยสอนลูกยังบอกอีกว่า คนประเภทที่ 1 และ 2 ต้องทำงานถึงจะได้เงิน หากไม่มีเวลาให้กับงานนั้น ๆ ก็จะไม่มีรายได้ เช่น หากพนักงานประจำไม่ไปทำงาน เกิน 3 วันก็ต้องโดนไล่ออก และไม่มีรายได้ หมอหากไม่สามารถไปรักษาคนไข้ได้ ก็ไม่มีรายได้เหมือนกัน หรือเจ้าของร้านโชวห่วย ก็ต้องเปิดร้านทุกวันถึงจะได้เงิน เป็นต้น เพราะว่าคนประเภทนี้ต้องใช้เวลาเพื่อแลกกับเงิน ไม่มีเวลาก็จะไม่มีเงิน
แต่กลุ่มคนประเภทที่ 3 และ 4 เป็นบุคคลที่ไม่ต้องเอาเวลามาแลกกับเงิน แต่จะใช้เงินเป็นตัวทำงานแทนตน ซึ่งก็คือการสร้างระบบขึ้นมาเอง เช่นสร้างธุรกิจแฟรนไซน์ การลงทุนเล่นหุ้น หรือการสร้างเครือข่ายผู้บริษัทสินค้า ตามแผนการตลาดแบบเครือข่าย ซึ่งมีต้นทุน และความเสี่ยงที่ต่ำที่สุด

หากคุณต้องการที่จะมีอิสรภาพทั้งทางด้านเวลา และมีอิสรภาพทางด้านการเงินไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งก็คือ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำงานเลย ถึงแม้คุณจะเดินทางไปท่องเที่ยว แต่คุณก็ยังจะมีรายได้จากระบบเครือข่ายผู้บริโภคที่คุณสร้างไว้ตลอดเวลาอย่างไม่ขาดสาย คุณลองเปิดใจที่จะ ศึกษาธุรกิจเครือข่าย
  ในอนาคตคุณจะมีอิสรภาพทั้งทางด้านเวลา และอิสรภาพทางด้านการเงินอย่างแน่นอน
 *แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน



 

*****************************

  ปัจจุบันมีรูปแบบวิธีการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ว่าแต่ว่าคุณจะปฏิเสธที่จะเรียนรู้มันด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยทราบมาก่อน หรือไม่   ในอดีต..เมื่อพูดถึงการทำการค้า หลายคนนึกถึงว่าต้องใช้เงินทุนมาก, ต้องจ้างแรงงานจำนวนมาก, ต้องผลิตสินค้า, ต้องมีโรงงาน, ต้องมีทำเลหน้าร้าน ฯลฯ ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงจะทำให้พวกเราส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองสักที เพราะขาดเงินทุน ขาดคนมีฝีมือที่ไว้วางใจได้
วันนี้ธุรกิจที่ทุกคนมีสิทธิ์ทำให้ฝันของตนเป็นจริงได้เกิดขึ้นแล้ว เราเรียกว่า   
 “ธุรกิจเครือข่าย” 
   
       ธุรกิจเครือข่าย เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงและไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำธุรกิจทั่วๆไป เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้   ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นเหมือนกับตนเป็นการโฆษณาแบบปากต่อปาก เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ  ก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโฆษณาและพ่อค้าคนกลาง    เหมือนกับการตลาดแบบเดิม ที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจะต้องผ่านระบบพ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับกำไรถึง 60% จากการจัดส่งสินค้ามาสู่ ผู้บริโภค
        มื่อเกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ทำให้บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถประหยัดงบประมาณที่เป็นค่าโฆษณาได้มาก ซึ่งบริษัทจะนำงบค่าโฆษณาที่ประหยัดได้ไปใช้ทำการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นอีก ส่วนผลกำไร 60% ของพ่อค้าคนกลางที่ถูกตัดออกมานั้น บริษัทจะนำเงินส่วนนี้มาจัดสรรให้กับผู้บริโภคที่ใช้ดีแล้วทำการบอกต่อกับผู้อื่นเป็นลำดับชั้นตามสัดส่วนที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระบบการตลาดแบบเครือข่ายนี้ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนแบ่งของรายได้มากถึง 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากระบบการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคแบบใหม่ นอกเหนือจากการที่จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวในระบบธุรกิจแบบเดิม

      โดยการตลาดแบบเครือข่ายผู้บริโภคที่ใช้วิธีการแนะนำบอกต่อนี้จะมีลักษณะที่พิเศษกว่าการ ตลาดแบบทั่วๆไป คือ ความสามารถในการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นได้แบบไม่จำกัดจำนวน โดยอาศัยเพียงการแนะนำผลิตภัณฑ์จากคน 1 คนแนะนำให้กับคน 2 – 3 คนและแต่ละคนของ 2 – 3 คนบอกต่อกับคน 2 – 3 คนต่อๆไป ก็จะเกิดการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภค ในลักษณะพหุคูณเพิ่มขึ้น ไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด
    การตลาดเครือข่ายคืออะไร? คือการทำให้สินค้ากระจายตัวสู่ผู้บริโภคได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางตามแบบวิธีเดิมๆ ซึ่งเรามองเห็นและเชื่อว่าการตลาดเครือข่ายเป็นการสร้างเครือข่ายที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดีกว่าและในราคายุติธรรมได้โดยตรงจากต้นทางคือโรงงาน การตลาดเครือข่ายเป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีค่าหรือการเอาเปรียบจากมือของกลุ่มพ่อค้ายักษ์ใหญ่ในระบบเศรษฐกิจที่เราเรียกกันว่าระบบทุนนิยมไปสู่มือของผู้บริโภคเดินถนนธรรมดา และในระยะยาวเราก็เชื่ออีกว่าธุรกิจลักษณะนี้จะก่อให้เกิดสินทรัพย์ในระยะยาวที่สามารถสร้างรายได้หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจนี้ได้อีกเป็นระยะเวลายาวนานเลยทีเดียว หรืออาจจะพูดอีกอย่างได้ว่า การตลาดเครือข่ายก็คือ ผู้ผลิตสินค้ากับผู้ผลิตสินค้าในสินค้าต่างชนิดกัน แต่นำสินค้าต่างชนิดกันมาขายในสถานที่เดียวกัน รวมถึงมีวิธีการถ่ายทอดหรือเผยแพร่ข้อมูลสินค้าตลอดจนผลตอบแทนต่างๆที่ตัวผู้ผลิตขึ้นมาด้วยความจริงใจและยุติธรรม
    นี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ด้วยเหตุผลว่า การเข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่ายนั้นนับว่าง่ายแสนง่าย  เมื่อเทียบกับผลประโยชน์และกับเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ทุกคนสามารถเข้าไปหยิบได้ แต่ก็เป็นคนส่วนน้อยที่พยายามจะทำความเข้าใจแต่ก็เป็นเรื่องยากจะเข้าใจได้ถูกต้องเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนลึกซึ้ง อาจพูดได้ว่าเป็นเรื่องของทัศนคติ และความเชื่อ  เราเชื่อว่าธุรกิจเครือข่ายจะดำเนินไปในทิศทางใดนะหรือ ? ก็อย่างที่เคยพูด กับหลายๆคนว่า หากคุณไม่เป็นคนไปชักชวนพ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา หลานชาย หลานสาว หรือ เพื่อนสนิท และเพื่อนร่วมงานของคุณเข้าสู่ธุรกิจนี้ คนอื่นๆ ก็ต้องเข้าไปชักชวนพวกเขาแทน  ธุรกิจนี้จึงเติบโตขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดโดยไม่ต้องสงสัย และสิ่งที่จะชี้ให้เห็นถึงความเติบโตและอนาคตที่ยั่งยืนมีปัจจัยอย่างน้อย 2 ประการที่เป็นกำลัง สำคัญผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากคนเดินดินหรือผู้บริโภคธรรมดาๆก็คือ 

  • ปัจจัยแรก คืออิทธิพลของเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น

  • ปัจจัยที่สอง คือ การเปลี่ยนแปลงของประชากรที่กำลังก้าวเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายนี้
   จากปัจจัยสองข้อนี้เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญและชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นหากนักธุรกิจ มืออาชีพที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจเครือข่ายไม่ยอมปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง ธุรกิจของพวกเขาก็อาจต้องจบลงอย่างไนโดเสาร์ในอดีตก็อาจเป็นไปได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่นักการตลาดเครือข่าย ต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆและยกระดับการทำงาน พร้อมๆกับปรับปรุงเทคนิคและวิธีการเข้าหาผู้บริโภค และ หรือ ผู้มุ่งหวัง ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลังก็เป็นได้ เพราะเหตุใด? เพราะว่า " อดีตไม่อาจเทียบกับอนาคต" 
กระแสของธุรกิจ MLM หรือ ธุรกิจเครือข่าย   ด้วยปัจจัยการแข่งขัน ย่อมต้องมีการใช้กลยุทธ์ ในการหาโอกาสผลักดันสินค้าให้กับผู้ใช้   โดยจ่ายค่าโฆษณาน้อยที่สุดจึงไม่มีอะไรทำได้ไปกว่าการนำแผนการตลาดแบบเครือข่าย MLM มาใช้ จึงเป็นอาชีพที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิเสธความร่ำรวย ความยากจนไม่ได้เป็นพันธุกรรมหรือเป็นกรรมพันธุ์ หากเราเกิดมาต้องการใช้ชีวิตของตนเองให้เกิดมาอย่างมีคุณค่าหรือจะทำงานที่ยากและลำบากก็น่าจะทำงานที่ยากลำบากอย่างสร้างสรรค์ขอเชิญท่านหันหน้ามาอย่างร่าเริงกับธุรกิจเครือข่าย MLM เพื่ออิสรภาพทางการเงินและการใช้ชีวิตอย่างเสรี
----------------------------------------
  ธุรกิจเครือข่ายดีอย่างไร 

 
1. รายได้ดี ขยันมากย่อมมีโอกาสทางรายได้สูง ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ธุรกิจเครือข่ายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถช่วยให้ความต้องการ หรือความฝันบรรลุเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาได้
2. เป็นมิตรกับคนทั่วไป เป็นบุคคลพิเศษ ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ดี มีมนุษยสัมพันธ์ อันเป็นคุณสมบัติที่สำคัญ ความสุภาพอ่อนโยน ยิ้มแย้ม และรู้จักยืดหยุ่น
3. รอบรู้รอบด้าน เนื่องจากต้องพบปะบุคคลต่าง ๆอยู่เสมอ ทำให้รู้รอบด้าน จากหลักการที่ว่าการนั่งในหัวใจคู่สนทนาก็คือ สนทนาในเรื่องที่เขาชอบ หรือสนใจนั่นเอง
4. มีความอิสระในการทำงาน ไม่ต้องมีใครคอยควบคุมในการทำงาน สิ่งที่เป็นเครื่องมือในการบังคับ หรือผลักดันให้มุ่งมั่นในการทำงาน คือ เป้าหมาย
5.ได้ประสบการณ์สูง ประสบการณ์ตรงที่ได้รับจากการทำงาน การติดต่อผู้อื่น ความสามารถเฉพาะตัว มีหูตากว้างขวาง มีความทะเยอทะยานในการดำเนินชีวิต
6. มีโอกาสก้าวหน้าเร็ว แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องมีฝีมือ และมีฝีปาก เป็นอาชีพหนึ่งที่มีโอกาสก้าวหน้าเร็วกว่าอีกหลาย ๆ อาชีพ ในขณะหลาย ๆ อาชีพ ต้องอาศัย รูปร่าง ส่วนสัด ความสวย ความงาม หรือพรสวรรค์ในการสร้างความก้าวหน้าให้กับตนเอง
7.ได้ใช้ความสามารถของตนได้อย่างเต็มที่ การท้าทายความสามารถของตนเอง ซึ่งเป็นการดึงความสามารถของตนออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ และสมบูรณ์ การได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ย่อมทำให้ มีคุณสมบัติพิเศษ คือความอดทน อดกลั้น มิฉะนั้นจะอดกิน
8.ได้รับความสำเร็จ เงิน รางวัล ชื่อเสียง เกียรติยศ บ้าน ที่ดิน รถยนต์ สามารถลิขิตชีวิตตนเองได้ ถึงแม้จะเลือกเกิดไม่ได้ก็ตาม
9. ทำให้บุคลากรในประเทศมีงานทำ เพราะทุกคนมีงานทำไม่เลือกงาน ไม่เกิดปัญหาการว่างงาน เป็นการลดภาระทางสังคมอันจะทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง เมื่อนักธุรกิจเครือข่ายมั่งมี กระแสของธุรกิจ MLM หรือ ธุรกิจเครือข่าย ด้วยปัจจัยการแข่งขัน ย่อมต้องมีการใช้กลยุทธ์ ในการหาโอกาสผลักดันสินค้าให้กับผู้ใช้ โดยจ่ายค่าโฆษณาน้อยที่สุดจึงไม่มีอะไรทำได้ไปกว่าการนำแผนการตลาดแบบเครือข่าย MLM มาใช้
   ธุรกิจเครือข่ายจึงเป็นอาชีพที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิเสธความร่ำรวย ความยากจนไม่ได้เป็นพันธุกรรมหรือเป็นกรรมพันธุ์ หากเราเกิดมาต้องการใช้ชีวิตของตนเองให้เกิดมาอย่างมีคุณค่าหรือจะทำงานที่ยากและลำบากก็น่าจะทำงานที่ยากลำบากอย่างสร้างสรรค์ขอเชิญท่านหันหน้ามาอย่างร่าเริงกับธุรกิจเครือข่าย MLM เพื่ออิสรภาพทางการเงินและการใช้ชีวิตอย่างเสรีดีไหมครับ
    
VDO ที่จะทำให้ท่านรู้ว่าธุรกิจเครือข่ายดียังไง




-----------------------------------------------------------------

 
ธุรกิจเครือข่ายในฝัน



ในวันนี้..อาจกล่าวได้ว่า ไม่มีใครที่ไม่รู้จักธุรกิจเครือข่าย(MLM) แต่จะมีสักกี่คนที่ตระหนักถึงความสำคัญของธุรกิจนี้ต่อสังคมและเศรษฐกิจของไทยในอนาคต นับวัน คำว่าธุรกิจเครือข่าย ได้เข้ามามีบทบาทต่อรายรับ - รายจ่ายของทุกครัวเรือนในสังคมไทย ตั้งแต่ชนชั้นรากหญ้าจนถึงผู้มีอันจะกิน ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันหลั่งไหลเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายสูงขึ้นเรื่อยๆเพราะด้วยมุมมองในการประกอบอาชีพของคนไทยเปลี่ยนไป คือ อยากที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือแม้กระทั่งเจ้าของธุรกิจเอง(ขนาดกลางและย่อมSMEs)จำนวนไม่น้อยที่เข้าร่วมในโอกาสทางธุรกิจนี้
  

  เหตุผลประการสำคัญที่ทำให้บุคคลเหล่านี้ก้าวเข้าไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่มันคือตัวระบบระบบที่สามารถสร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัด และสามารถทำงานแทนเราได้ แม้ในขณะที่เราไม่ได้ทำงาน ซึ่งเกิดจากการขยายงานของเครือข่ายใต้สายงานแต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น แม้แผนธุรกิจจะดีเลิศแค่ไหนก็ตาม เราก็ยังต้องทำงานแบบถวายชีวิตเพื่อความสำเร็จ คำว่าอิสระทางการเงิน และเวลา มันก็คงเป็นเพียงความฝันลมๆแล้งๆ เพราะระบบที่สามารถทำงานแทนเราได้ 100% นั้น มันยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง...แต่ ณ บัดนี้มันได้เกิดขึ้นแล้วคำตอบนี้อยู่ในบทความคลื่นลูกที่สาม

คลื่นลูกที่ 1  แนวคิดหลัก “สร้างเครือข่ายผู้บริโภค”
     ธุรกิจเครือข่ายมีวิวัฒนาการมาจากธุรกิจขายตรง ดังนั้นในยุคแรกเริ่ม แผนธุรกิจเครือข่าย จึงยึดรูปแบบของการขายตรงโดยเน้นที่งานขายสินค้าสู่ผู้บริโภคเป็นหลัก เมื่อมีนโยบายมุ่งไปที่การขาย นักธุรกิจในกลุ่มนี้จึงต้องจดจำรายละเอียดสินค้าให้มาก เพื่อนำเสนอสินค้าแก่ผู้บริโภค ครั้นต่อมามีการพัฒนาวิธีการทำงานที่ดีขึ้น ด้วยการส่งเสริมการขายด้วยนโยบายการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค มีระบบสมาชิกเพิ่มขึ้นมา สมาชิกธุรกิจสามารถเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้ผลประโยชน์ทั้งสองทาง กลายเป็นธุรกิจเครือข่ายที่มีผลดีต่อเศรษฐกิจระดับครัวเรือน ซึ่งหลักการทั้งหมดนี้ทำให้เกิดเครือข่ายผู้บริโภคขึ้นมากมายทุกอย่างในธุรกิจเครือข่ายแบบคลื่นลูกที่หนึ่งนี้ ดีหมดทุกประการแต่เสียอยู่อย่างเดียว คือ มันทำได้ยาก เพราะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ทั้งขาย ทั้งประชุม และกิจกรรมอื่นๆอีกมาก และยังมุ่งอยู่กับการใช้แรงงานคนเป็นหลักแต่เป็นเรื่องที่แปลก ที่คนขายเก่งที่สุด กลับไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ เพราะ คนที่มีรายได้ 6-7 หลักในธุรกิจนี้ เน้นสร้างนักธุรกิจเครือข่ายมากกว่าสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ซึ่งจุดนี้เองก่อให้เกิดกระแสของคลื่นลูกที่สอง

คลื่นลูกที่ 2 แนวคิดหลัก เครือข่ายของนักธุรกิจเครือข่าย
   ธุรกิจเครือข่ายในคลื่นลูกที่ 2 นี้มีวิวัฒนาการมาจากคลื่นลูกเก่า ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีก็มาเข้ามีบทบาทสำคัญต่อการทำงานในธุรกิจ ระบบINTERNETได้เข้าเสริมการขยายงานขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ทั้งระบบและคนร่วมกันทำงาน ในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำงานแทนกันได้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์คนยังคงเป็นปัจจัยหลักของการทำธุรกิจเครือข่าย ซึ่งหมายความว่า นักธุรกิจก็ยังคงต้องทำกิจกรรมต่างๆเหมือนเดิม เช่น การประชุมนอกสถานที่ การนัดคุยที่ร้านกาแฟ แต่มีภาระในการดำเนินงานลดลงกว่าเดิมแผนการตลาดในยุคนี้ ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และขั้นตอนในการสำเร็จที่ง่ายกว่า จึงทำให้ธุรกิจเครือข่ายรุ่นแรกๆต้องพยายามปรับตัวแข่งขันให้ทัน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดของแผนธุรกิจเดิม(ที่เริ่มต้นใช้ มานับสิบปี) และการแก้แผนก็เป็นสิ่งที่ทำได้ลำบากแม้ธุรกิจเครือข่ายจะพัฒนามาถึงระดับที่มีความสะดวก ความรวดเร็ว และมีแผนธุรกิจที่ง่ายต่อความสำเร็จ แต่การสร้างนักธุรกิจเครือข่าย ขึ้นมาสักหนึ่งคน มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก และหากว่าใต้สายงานของคุณไม่มีบุคคลเช่นนี้ ธุรกิจเครือข่ายที่คุณสร้างมา มันอาจจะเฉาลงในที่สุด ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้นักธุรกิจเครือข่ายหลายท่านจึงวางมือไม่ได้เลยและแล้วในที่สุด ก็มีคนคิดค้นระบบธุรกิจที่สมบูรณ์แบบขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคดังที่กล่าวมา โดยใช้ระบบINTERNETทำงานแทนคน100% ซึ่งนวัตกรรมนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์คลื่นลูกที่ 3 ในธุรกิจเครือข่าย

คลื่นลูกที่ 3 แนวคิดหลัก นักธุรกิจเครือข่าย ที่มีระบบอัจฉริยะ

    ธุรกิจเครือข่ายพันธุ์ใหม่ บนโลกไซเบอร์ ที่นักธุรกิจเครือข่ายสามารถทำงานเครือข่ายทุกขั้นตอน ได้บน INTERNET อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องก้าวเท้าออกนอกบ้าน ไปหาผู้มุ่งหวัง นำสินค้าไปขาย หรือแม้กระทั่งการนัดประชุมตามโรงแรม วิถีทางธุรกิจทั้งหมดนี้จะเหลือเพียงแค่ยกหูโทรศัพท์ และชักชวนผู้มุ่งหวังให้ศึกษาข้อมูลทางธุรกิจจากเว็บไซด์ส่วนตัวของท่าน ซึ่งทุกท่านจะได้รับจากบริษัททันทีที่เมื่อสมัครเป็นสมาชิกรูปแบบของธุรกิจเครือข่ายในแบบฉบับคลื่นลูกที่สามนี้ เหมาะสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลา ไม่ชอบไปประชุม ไม่ชอบพูดคุยนานๆ(ก็ต้องมีบ้าง) และที่สำคัญลงทุนไม่สูงนัก เมื่อเปรียบเทียบกับฐานรายได้ของคนไทย ณ ปัจจุบันเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจเครือข่ายแบบคลื่นลูกที่สาม ใช้เงินลงทุนต่ำ เพราะ ทุกอย่างทำบน INTERNET จึงประหยัดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล



ธุรกิจในฝันของคุณควรมีหลักเกณฑ์ 5 ประการดังนี้


  1. มีรายได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ (คุณลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่มีรายได้ครั้งแล้วครั้งเล่าต่อเนื่อง)
  2. ไม่มีความเสี่ยง เก็บเกี่ยวได้ตลอดชีวิต
  3. มีตลาดรอบโลก ไม่จำกัดขอบเขตของการทำตลาด
  4. ให้เป็นมรดกให้กับทายาทได้ และขายได้
  5. ลงทุนน้อยและบำรุงรักษาน้อย





ธุรกิจในฝันขนานแท้ต้องมีครบทั้ง 5 ข้อนี้ หากมีเพียง 4 ใน 5 ประการถือว่ายังไม่ดีพอ เพราะในที่สุดแล้วมันก็จะกลายเป็นธุรกิจแบบเดิม ๆ ที่มีลักษณะบางประการของธุรกิจในฝันเท่านั้น ในปัจจุบันเป็นที่แน่ชัดว่า "ธุรกิจเครือข่าย+อีคอมเมิร์ซ" เป็นกุญแจสำคัญของการได้มาซึ่งธุรกิจในฝันอย่างแท้จริง


-----------------------------------------------------------

กฏแรงดึงดูด

Secret Law of Attraction :ไขความลับกฎแรงดึงดูด



    เคล็ดลับที่จะนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จของชีวิตโดยเชื่อในLaw of Attraction กฎแห่งการดึงดูดเพราะจิตของเรามีพลังอำนาจมหาศาลพูดง่ายๆก็คือ ให้คิดแต่สิ่งที่ดี แล้วสิ่งดีๆจะถูกดึงดูดเข้ามาหาเราเอง  “นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สำหรับการมีชีวิตอยู่เพราะเป็นครั้งแรกที่มนุษย์เรามีอำนาจถึงขั้นใช้เพียงปลายนิ้วก็หาความรู้ได้”
     ความลับที่จะทำให้คุณจะได้เรียนรู้วิธีการใช้ความลับในทุกแง่มุมของชีวิต ทั้งด้านการเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์ความสุขและปฏิสัมพันธ์ทุกรูปแบบของคุณในโลกนี้ คุณจะเริ่มเข้าใจพลังอำนาจภายในตัวเองที่ถูกปกปิดซ่อนเร้นมานานและสิ่งที่เปิดเผยนี้จะนำมาซึ่งความยินดีในทุก ๆ ด้านชีวิตของคุณ
                 ความสำเร็จทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ เราต้องเข้าใจใน 3 กระบวนการ ดังนี้
กระบวนการที่ 1 : Attraction Process หรือ กระบวนการสร้างแรงดึงดูด
โลกของเรามีแรงดึงดูดที่เป็นพลังงานที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่พวกเราสามารถสัมผัสมันได้ผ่านกระบวนการเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ตัวเราเองก็สามารถสร้างแรงดึงดูดได้เหมือนกันแต่สิ่งที่จะวิ่งเข้ามาหาเรา..คุณต้องการสิ่งที่ดีหรือไม่ดีหละคงไม่มีใครต้องการสิ่งไม่ดี และคงไม่มีใครไม่ต้องการสิ่งดีดีทุกคนต่างต้องการสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสุขภาพ ทรัพย์สินเงินทองหน้าที่การงาน ต่างๆก็ล้วนแต่ต้องการสิ่งดีดี ทีนี้เราจะสร้างแรงดึงดูดอย่างไรให้มีแต่สิ่งดีดีเข้ามาหละ

  The secret ได้บอกหลักสำคัญๆของแหล่งแรงดึงดูดสิ่งดีดี ไว้ดังนี้


1.1 การคิดเชิงบวก (positive thinking): ทุกความคิดมีแรงดึงดูดเคยสังเกตุมั๊ยว่า หากเราคิดคำนึ่งหรือกังวลเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ่อยๆๆเรื่องนั้นก็มักเกิดขึ้นจริง ดังนั้นหากเราเปลี่ยนความคิดจากการคิดถึงสิ่งที่ไม่ดีบ่อยๆ เป็นคิดถึงแต่สิ่งที่ดีดี บ่อยๆคลื่นความคิดเราก็จะแปรเปลี่ยนเป็นแรงดึงดูด ดูดสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต




"อะไรก็ตามที่คุณคิดและรู้สึกในวันนี้ คือสิ่งที่สร้างอนาคตของคุณ"

"Your thaught and you feeling create your life"
"ความคิดและความรู้สึกของคุณ สร้างชีวิตคุณ"

" Take the first step in faith you don't have to see the whole staircase just take the first step"

"เริ่มก้าวแรกด้วยความศรัทธาคุณไม่จำเป็นต้องเห็นขั้นบันไดทั้งหมดคุณแค่เริ่มต้นที่ก้าวแรก"

"When you want to change your circumstance you must first to change your thinking"
"หากคุณต้องการสิ่งที่เป็นอยู่รอบตัวคุณคุณต้องเปลี่ยนความคิดคุณเป็นอันดับแรก"

"Imagination is everything. It is the preview of lifes coming attractions"
"จิตนการคือทุกสิง มันเปรียบเสมือนภาพของชีวิตที่กลายเป็นแรงดึงดูด"

"Whatever the mind of man can conceive, it can achieve"
"อะไรก็ตาม ที่จิตใจของคนสามารถคิดได้มันก็สามารถนำมาครอบครองได้"

"Energy flows when attention goes"
"พลังงานจะไหลลื่น เมื่อความมุ่งมั่นเกิดขึ้น"

" All power is from within and is therefore under our own control"
"พลังอำนาจทั้งหมดมาจากภายในฉะนั้นมันควรอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา"


เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะรู้สึกแย่ในขณะที่คิดอะไรดีๆ Charles Haanel
สิ่งที่คุณต่อต้านจะยิ่งทานทน” … Carl Jung (1875-1961)

ไม่ว่าคุณจะคิดว่าคุณทำได้หรือคิดว่าคุณทำไม่ได้ คุณก็คิดถูกทั้งนั้น” .. Henry Ford (1863-1947)
                                         ข้อคิดจากคำคม ใน The secret
1.2 รู้เท่าทันความคิดของตัวเอง : เหมือนเป็นการมีสติ กำหนดรู้ว่า ขณะนี้เราคิดอะไร คิดดีหรือคิดเลวเมื่อเรารู้เท่าทันความคิดเราเมื่อไหร่เราก็สามารถคัดแยกความคิดเลวออกจากความคิดดีได้ทำให้เรามีโอกาสที่จะยับยั้งความคิดเลว และดำเนินความคิดดีดีต่อไป

       สร้างคิดดี อารมณ์ดี โดย รู้จักมีความพึงพอใจ (Satification) รู้จักชื่นชมผู้อื่น (Appriciation) มีความหวัง (Hope) มีความสุข (Happiness) รู้จักสนุก ร่าเริง(Joy) รู้จักขอบคุณ (Gratitude) รู้จักรักทั้งตัวเอง ผู้อื่นและสิ่งอื่นรอบตัว (Love) เป็นต้น

      ละทิ้ง ความคิดเลว อารมณ์เลว โดยตัดความหวาดกลัว (Fear) ความกดดัน เครียด(Depression) ผิดพลาดเลอะเทอะ (Fault) ไม่พอใจขุ่นเคือง (resentment) ความเกลียด (Hate) ความโกรธ (Angry) การตำหนิติเตียน(Criticism) การกล่าวโทษนินทา (Blame) เป็นต้น


1.3 เริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งดีดี : คุณเคยสังเกตุมั๊ยหากวันไหนคุณตื่นมาพร้อมอารมณ์ที่ขมุกขมัว วันนั้น คุณอาจปวดหัวอะไรก็ดูช่างหงุดหงิดในสายตาของคุณไปเสียทั้งหมด ไม่ว่า จะเป็นคน การจราจร หรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ แต่ในทางกลับกัน หากคุณสามารถตื่นขึ้นมาพร้อมกันความรู้สึกดีดีสมองคุณก็จะแจ่มใส จิตใจก็จะเบ่งบาน พร้อมที่จะมีสติรับรู้เรื่องราวต่างๆในวันนั้นได้อย่างต่อเนื่องและมีสมาธิในการไตร่ตรองแยกแยะ พิจารณาสิ่งที่ ผิด ถูก ชั่ว ดีได้ไม่ยาก ซึ่งเมื่อคุณได้กรองและเลือกที่จะรับแต่สิ่งดีดีแล้วอารมณ์ก็จะดียิ่งขึ้น สิ่งที่แสดงออกมาจากตัวคุณ ก็ดี สิ่งที่คุณจะได้รับต่อไปยิ่งดี


1.4 อย่าลังเลกับสิ่งที่จะลงมือทำ : สิ่งดีดี โอกาสคอยเราอยู่เสมอเมื่อเราสามารถสร้างแรงดึงดูดได้แล้ว สิ่งที่สะท้อนกลับมาเมื่อเราหยุดคิดอย่างรอบคอบแล้ว อย่าลังเลที่จะรับ อย่าปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยเพราะหากคุณไม่เริ่มผลคงไม่เกิดเราไม่จำเป็นต้องเห็นตลอดทั้งเส้นทางหรือเห็นทางทั้งหมด แต่หากคุณเริ่มและลองดูคุณอาจจะเห็นทางอีกหลายทางซึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้


กระบวนการที่ 2 : Gratitute หรือ รู้จักขอบคุณและชื่นชม การรู้จักขอบคุณ ขอบคุณสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณสิ่งที่คุณมี สิ่งที่คุณเป็น ด้วยใจจริง ตัวอย่างเช่น แทนที่คุณจะมองว่าของขวัญจากเพื่อนมูลค่าน้อยนิด คุณจงมองเสียใหม่ว่าขอบคุณที่มีเพื่อนที่น่ารักเพื่อนยังคิดถึงเราเสมอแทนที่คุณจะน้อยใจว่าพ่อแม่ดุว่าคุณจงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่ทุกวันนี้ยังได้ยินเสียงของพ่อแม่และท่านยังได้มีทุกข์สุขร่วมกับเรา  แทนที่คุณจะมองว่าอาหารมื้อนี้น้อยเกินไปกินไม่อิ่ม คุณจงมองเสียใหม่ว่าขอบคุณที่ทุกวันนี้คุณยังมีข้าวมีอาหารให้ได้กินหากคุณสามารถมองสิ่งรอบตัวในมุมที่ดีดีได้คิดเชิงบวกกับสิ่งเหล่านั้นได้ และสามารถขอบคุณสิ่งเหล่านั้นได้และชื่นชมอย่างจริงใจ คุณก็จะสามารถสร้างแรงดึงดูดดีดี ให้กับชีวิตคุณได้ไม่ยาก

กระบวนการที่ 3 : Visualize หรือรู้จักสร้างภาพ การสร้างภาพในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการให้โกหกหลอกลวง สร้างภาพให้ดูดี ในสายตาคนอื่นแต่การสร้างภาพในที่นี้ หมายถึง การสร้างจิตนาการแห่งความหวังของคุณให้เป็นภาพออกมาเช่น หากคุณต้องการมีบ้านสวย คุณลองวาดภาพบ้านในฝันของคุณออกมาดูซิคุณก็จะมีความหวัง แรงบันดาลใจพลังในจิตใจให้เกิดความพยายามในการสร้างสรรค์แนวทางที่จะให้ได้มาซึ่งบ้านในฝันของคุณไม่เฉพาะสิ่งของแม้แต่บุคคลหากเราฝันมันก็อาจเป็นจริง เชื่อได้ว่า ข้อนี้ ทุกคนก็คงเคยฝันถึงคนในอุดมคติ ที่คุณสามารถเอาเป็นแบบอย่างได้ ความลับข้อนี้มันอาจถูกเปิดเผยมานานแล้ว แต่เพียงแต่เรายังไม่ทราบเท่านั้นเองว่า มัน คือช่องทางแห่งความสำเร็จ
"Whatever you're thinking and feeling today is creating your future"

** เริ่มฝึกจากสิ่งเล็กๆน้อยๆก่อน เช่นกาแฟสักถ้วย หรือที่จอดรถ นี่เป็นวิธีง่ายๆที่จะช่วยคุณได้สัมผัสกับการทำงานของกฏแห่งการดึงดูดจงตั้งใจและจริงจังที่จะดึงดูดอะไรสักอย่างที่เล็กๆก่อนเมื่อคุณได้ประจักษ์ในพลังดึงดูดของตนเองแล้ว คุณก็สามารถยกระดับขึ้นสู่การสร้างอะไรที่ใหญ่กว่านั้นได้**----------------------------------------------------
ที่มา : DVD เรื่อง "The secret"






------------------------------------------------------------









track net visits